ชื่อจริง : สมบัติ บัญชาเมฆ
วันเกิด : 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2525 (อายุ 27 ปี)
สถานที่เกิด : จังหวัดสุรินทร์
ส่วนสูง : 174 เซนติเมตร
น้ำหนัก : 70 กิโลกรัม
สถิติการชก : 407 ครั้ง ชนะ 357 ครั้ง แพ้ 45 ครั้ง เสมอ 5 ครั้ง
บัวขาว ป.ประมุข เป็นนักมวยไทยที่มีชื่อเสียงและเป็นที่ยอมรับในวงการการต่อสู้ระดับสากล โดยเฉพาะในทวีปยุโรปและประเทศญี่ปุ่น เขาเป็นนักมวยไทยสังกัดค่ายมวย ป.ประมุข ส่วนสูง 174เซนติเมตร น้ำหนัก 70 กิโลกรัม บัวขาวจัดเป็นหนึ่งในนักกีฬาอาชีพไทยที่ทำรายได้สูง โดยรายได้ส่วนใหญ่มาจากการชกมวยที่ต่างประเทศ นอกจากนี้ ยังมีผลงานการแสดงในภาพยนตร์ไทยเรื่องซามูไร อโยธยา
บัวขาวยังเคยได้รับเชิญในงานสัมมนาที่ประเทศฮ่องกงสำหรับการเผยแพร่ศิลปะมวยไทย ณ วันที่ 19 และ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554 โดยมี อลัน เอ็นกาลานี่ ให้การต้อนรับที่อิมแพคยิม และใน พ.ศ.2554 เขาได้เข้าร่วมแข่งขันในรายการไทยไฟท์ ที่ประเทศไทย ในรุ่น 70 กก.
ประวัติ
บัวขาวเกิดและเริ่มชีวิตอาชีพมวยไทย ตั้งแต่เมื่ออายุได้ 8 ขวบ ที่จังหวัดสุรินทร์ เข้ากรุงเทพมาสังกัดค่ายมวย ป.ประมุข เมื่ออายุได้ 15 ปี บัวขาวได้รับเข็มขัดแชมป์มาครองเป็นจำนวนมากภายหลังเริ่มอาชีพมวยไทยที่กรุงเทพ ได้แชมป์เวทีมวยสยามอ้อมน้อย รุ่นเฟเธอร์เวท แชมป์ประเทศไทยรุ่นเฟเธอร์เวท และแชมป์ที่เวทีมวยสยามอ้อมน้อยอีกครั้ง ในรุ่นไลท์เวท ในปี พ.ศ. 2545 บัวขาวชนะเลิศมวยไทยมาราธอนโตโยต้า รุ่น 140 ปอนด์ ที่สนามมวยลุมพินี ชนะโคบายาชินักชกชาวญี่ปุ่น
พ.ศ. 2547 บัวขาวชนะเลิศรายการ เค-วัน เวิลด์แมกซ์ 2004 ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น โดยชนะ จอห์น เวย์น พาร์ นักมวยไทยชาวออสเตรเลีย โคะฮิรุยมาคิ และมาซาโตะแชมป์เก่าชาวญี่ปุ่น และในปีต่อมา บัวขาวเกือบที่จะรักษาแชมป์รายการ เค-วัน ได้ โดยแพ้คะแนน แอนดี้ ซอเยอร์ ในนัดชิงชนะเลิศอย่างน่ากังขา
พ.ศ. 2549 บัวขาวเข้าชิงชนะเลิศรายการ เค-วัน เวิลด์แมกซ์ ได้ติดต่อกันเป็นปีที่ 3 และเป็นแชมป์ได้อีกครั้ง โดยเป็นนักมวยคนแรกในรายการนี้ที่ชนะเลิศสองสมัย
พ.ศ. 2550 บัวขาวเข้าแข่งขันรายการ เค-วัน เวิลด์แมกซ์ ในวันที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2550 บัวขาวสามารถผ่านเข้ารอบ 8 คนสุดท้ายโดยชนะคะแนน Nieky "The Natural" Holtzken นักชกชาวฮอลแลนด์
พ.ศ. 2551 บัวขาวเข้าแข่งขันรายการ เค-วัน เวิลด์แมกซ์ โดยบัวขาวแพ้น็อกให้กับ โยชิฮิโร่ ซาโตะ นักมวยชาวญี่ปุ่น แฟนมวยบางส่วนกังขาว่ามีการล้มมวยหรือไม่ แต่พิจารณาแล้วพบว่าบัวขาวแพ้น็อกจริงๆ ด้วยเข่าของซาโตะทำให้จุกและโดนหมัดฮุคเข้ากกหูสลบคาเวที เป็นความเสียใจของคนไทยครั้งหนึ่ง
พ.ศ. 2552 บัวขาวเข้าแข่งขันรายการ เค-วัน เวิลด์แมกซ์ โดยคราวนี้สามารถเข้าถึงรอบ 4 คนสุดท้าย แต่ต้องมาแพ้คะแนนให้แอนดี้ ซาวเวอร์ คู่ปรับเก่าอย่างน่ากังขาอีกหน บัวขาวถึงกับออกมาให้สัมภาษณ์ว่าอยากให้กรรมการชี้แจงผลการตัดสิน แฟนมวยเควันต่างพากันเห็นใจบัวขาวโดยมีหลักฐานคือผลโหวตนักสู้เค-วันแม็กซ์ของปีนี้ บัวขาวได้เป็นอันดับ 2 ด้อยกว่าเพียง จอร์จิโอ เปโตรเซียน แชมเปี้ยนรายการเควันปีนี้เท่านั้น
ใน พ.ศ. 2554 บัวขาวได้เข้าแข่งขันในรายการไทยไฟท์ โดยเขาเป็นฝ่ายชนะน็อค ไมเคิล พิซิเทโล่ ซึ่งเป็นนักมวยไทยชาวฝรั่งเศสในรอบรองชนะเลิศ และจะได้พบกับแฟร้งค์ จอร์จี้ จากประเทศออสเตรเลียในรอบชิงชนะเลิศที่ลานพระบรมรูปทรงม้า ในวันที่ 18 ธันวาคม ของปีเดียวกันนี้
เกียรติประวัติ
อดีตแชมป์เวทีมวยสยามอ้อมน้อย รุ่น 126 ปอนด์
อดีตแชมป์ประเทศไทย มวยไทย รุ่นเฟเธอร์เวท 126 ปอนด์
อดีตแชมป์เวทีมวยสยามอ้อมน้อย รุ่นไลท์เวท
แชมป์มวยไทยมาราธอน โตโยต้า รุ่น 140 ปอนด์ ในพ.ศ. 2545
แชมป์ เค-วัน เวิลด์แมกซ์ 2004 ในพ.ศ. 2547
รองแชมป์ เค-วัน เวิลด์แมกซ์ 2005 ในพ.ศ. 2548
S1 ซูเปอร์เวลเธอร์เวท เวิลด์แชมเปี้ยน
WMC มิดเดิ้ลเวทเวิลด์แชมเปี้ยน
แชมป์ เค-วัน เวิลด์แมกซ์ 2006 ในพ.ศ. 2549

เปิดประวัติ บัวขาว ป.ประมุข นักชกไทยชื่อก้องโลก
กลับ มาผงาดอีกครั้งในศึก K-1 World Max 2009 พร้อมกับความคาดหวังที่จะซิวแชมป์สมัยที่ 3 เป็นคนแรกในประวัติศาสตร์ ทำให้เวลานี้ชื่อของ "บัวขาว ป.ประมุข" นักชกไทยเจ้าสังเวียนมวย K-1ถูกพูดถึงกันอีกครั้ง โดยเฉพาะแฟนมวยชาวยุโรปและญี่ปุ่น นักชกไทยรายนี้เป็นที่รู้จักกันอย่างดี และถือเป็นยอดมวยในดวงใจ ขนาดที่มีแฟนคลับคอยตามกรี๊ด และให้กำลังใจติดขอบเวทีทุกครั้งที่ขึ้นชก...แต่สำหรับคนไทย "บัวขาว" อาจยังเป็นที่รู้จักในวงจำกัด ว่าแล้วกระปุกดอทคอมก็ไม่พลาดขอพาไปทำความรู้จักเขากันค่ะ
บัวขาว ป. ประมุข หรือชื่อจริง คือ "สมบัติ บัญชาเมฆ" เป็นนักมวยไทยวัย 27 ปี ที่มีชื่อเสียงและเป็นที่ยอมรับในวงการมวยในทวีปยุโรปและประเทศญี่ปุ่น โดยเฉพาะในสังเวียนมวย K-1 ที่เขาเคยเป็นแชมป์ในปี พ.ศ.2547 และ พ.ศ.2549 อย่างไรก็ตาม บัวขาวเกือบจะได้แชมป์ K-1 ถึง 3 สมัยติดกันมาแล้ว แต่มาสะดุดในปี พ.ศ.2548 บัวขาวแพ้คะแนน แอนดี้ ซอเยอร์ ในนัดชิงชนะเลิศอย่างน่ากังขา
ทั้งนี้ มวย K-1 คือ มวยไทยที่ญี่ปุ่นนำไปเผยแพร่ เมื่อปี พ.ศ. 2537 โดยอาจารย์คาซูโยชิ อิชี่ (Kazuyoshi Ishii) เจ้าสำนักเซโดไคคังคาราเต้ ในประเทศญี่ปุ่น โดยประยุกต์เอาศิลปะการต่อสู้แขนงต่างๆ มาต่อสู้กัน และใช้กติกาเดียวกันกับมวยไทย คือ ห้ามใช้ศอกและโน้มคอตีเข่า ซึ่งมวย K-1 ได้ออกอากาศแพร่ภาพทางโทรทัศน์ครั้งแรกในปี พ.ศ. 2539
" มันก็คือมวยไทยนี่แหละ แต่พอดีญี่ปุ่นเขาหยิบสิทธิ์ไปใช้ ครั้งแรกที่ผมเข้าไปเขาห้ามแค่ศอกอย่างเดียว นอกนั้นยังใช้ได้หมด ที่ห้ามใช้ศอกเพราะมันเป็นวุธที่รุนแรงมาก เกิดพลาดไปมันอาจทำให้เสียโฉมได้ เพราะเขาต้องเซฟหน้าตานักมวยด้วย นักมวยมันต้องหล่อ ต้องดึงดูดใจแฟนมวยสาวๆ" บัวขาว กล่าว
สำหรับบันไดสู่เวทีมวยระดับโลกของบัวขาว เริ่มต้นเมื่อเขาอายุได้ 8 ขวบ ที่บ้านเกิดจังหวัดสุรินทร์ บัวขาวฝึกมวยตั้งแต่ยังเด็กจนอายุ15 ปี ก็ตบเท้าเริ่มอาชีพมวยไทยกับสังกัด "ป.ประมุข" ของกำนันเก๊-ประมุข โรจนตัณฑ์ และเขาก็ไม่ทำให้เจ้าของค่ายมวยผิดหวัง สามารถคว้าเข็มขัดแชมป์เวทีมวยสยามอ้อมน้อย รุ่นเฟเธอเวท, แชมป์ประเทศไทย ในรุ่นเฟเธอเวท และแชมป์ที่เวทีมวยสยามอ้อมน้อยอีกครั้ง ในรุ่นไลท์เวท นอกจากนั้น ยังเป็นแชมป์ประเทศไทย และแชมป์รายการอื่นๆ อีกเป็นจำนวนมาก
จากนั้นบัวขาวก็ได้มีโอกาสออกตระเวนทำศึกนอกสังเวียนไทย ทำให้เขากลายเป็นที่รู้จักและโด่งดังอย่างมากในต่างประเทศ จึงไม่แปลกอะไร ที่ ณ เวลานี้บัวขาวถูกจัดเป็นหนึ่งในนักกีฬาอาชีพไทยที่ทำรายได้สูงสุดคนหนึ่ง โดยมีรายได้ต่อปีเป็นตัวเลข 8 หลัก ซึ่งส่วนใหญ่มาจากการชกมวยที่ต่างประเทศ และปัจจุบันเขามีสถิติการชกทั้งหมด 407 ครั้ง ชนะ 357 ครั้ง แพ้ 45 และเสมอ 5ครั้ง.... อิอิ สงสัยเพราะเก่งอย่างนี้นี่เอง จึงทำให้มีแฟนคลับสาวชาวแดนปลาดิบเพียบบบ...
"เวลาอยู่ ญี่ปุ่นผมแปลงโฉมตลอดเลยนะ คือ อากาศที่โน่นมันหนาวก็เลยต้องใส่ชุดหนาๆ ผมนี่ใส่ฮิพฮอพคลุมหน้าเลย แต่ถึงขนาดนั้นบางคนยังจำได้อีก เขาจะเริ่มมองแล้วค่อยๆ กรูเข้ามาหา บางรายคลั่งไคล้ถึงขนาดจัดทัวร์มานั่งดูการซ้อม มาเยี่ยมค่าย ดูความเป็นอยู่ของเรา พอซ้อมเสร็จผมก็มานั่งคุยกับเขา แล้วทีนี้เหงื่อมันออกมาก เขาก็จะเอาผ้ามาเช็ดแล้วก็เก็บเหงื่อปาดใส่กระป๋องน้ำไว้" บัวขาว เล่าถึงแฟนคลับของเขา
และ ในปีนี้ พ.ศ.2552 บัวขาวก็จะกลับมาถามหาบัลลังก์แชมป์มวย K-1 อีกครั้ง โดยเมื่อวันที่ 13 กรกฎาคมที่ผ่านมา เขาก็ผ่านด่านการดวลหมัดรอบ 8 คนสุดท้ายได้อย่างไม่ยากเย็นนัก หลังจากสามารถเอาชนะ นิคกี โฮลส์เกน คู่ปรับเก่าจากฮอลแลนด์ ไป 30 - 28 คะแนน ทะลุเข้าสู่รอบรองชนะเลิศไปพบกับ แอนดี ซาวเออร์ แชมป์ 2 สมัย ชาวฮอลแลนด์ โดยมีคิวฟาดหมัดกันในวันจันทร์ที่26 ตุลาคมนี้ ที่ประเทศญี่ปุ่น และหากชัยชนะอยู่ในมือของบัวขาว เขาก็จะต้องทำศึกรอบชิงชนะเลิศในวันเดียวกัน
และแน่นอนว่าในรอบชิงชนะเลิศที่ญี่ปุ่นนั้น เป็นที่น่าจับตาเป็นอย่างยิ่ง ว่าศักดิ์ศรีแชมป์ 2 สมัยระหว่างนักชกไทยกับนักชกฮอลแลนด์ ใครจะแน่กว่ากัน เพราะทั้งคู่ต่างก็ต้องการชนะเพื่อจะได้เข้าไปชิงแชมป์สมัยที่ 3 ซึ่งถือเป็นแชมป์ประวัติศาสตร์ ...
เอ้า! รู้อย่างนี้แล้ว พี่น้องชาวไทยก็อย่าลืมส่งกำลังไปเชียร์บัวขาวกันนะคะ
คลิป รายการ Thai Fight
ขอขอบคุณข้อมูลจาก วิกิพีเดีย และ kapook
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น